2554/04/11

รักกันจึงตักเตือน

*****รักกันจึงตักเตือน*****
นิดนึ่งหน่าเล็กน้อยไม่เป็นไร
ก็ใครใครเขาก็ไปเล่นหนุกหนาน
แค่เล็กน้อยไม่น่าทำเสียอีหม่าน
แค่สงกรานต์คงไม่น่าเป็นอะไร
มีไหมหนอความคิดนี้ในพี่น้อง
หรือเพือนพ้องมองเห็นเป็นอย่างไหน
แค่สาดน้ำเปียกปอนคลายร้อนไง
หรือยุคนี้สมัยใหม่ไม่แค่คน
สวม"ฮิญาบ"ภาพชัดยืนสาดน้ำ!
ไว้"เครา"งามปะแป้ง!ใครก็ไม่สน
ยืนโห่ร้องก้องหล่าว่าสุขล้น
ใครจะบ่นกร่นเตือนเพือนไม่ฟัง
อย่าเลยนะคิดว่าทำเพื่อ"อัลลอฮ"
คงไม่เหมาะเพราะเราคือความหวัง
บททดสอบเพียงแค่นี้ยังทำพัง
คนรุ่นหลังจะหวังพึ่งได้อย่าไร
ผู้ศรัธทาทั้งหลายชายและหญิง
จงอย่าทิ้ง"อิสลาม"จะได้ไหม
หลุมกลลวงบ่วงตามทางอย่าตกไป
"สำรวม"ไว้"อดทน"น่ะมีรางวัล
ตัวผมเองก็ชอบนะทำแบบเขา
แต่ตัวเราอยู่ใน"คุก"ไม่สุขสรรค
แต่ดุนยาของ"เขา"คือรางวัล
เลือกแล้วกัน"สวรรค์"อันไหนใครต้องการ
"โอ้อัลลอฮขอวอนอัอนพรพระองค์"
ได้โปรงทรงให้"เข้มแข็ง"ทั่วไพศาล
ให้พี่น้องยึดมั่น"อุดมการณ์"
"สู่สวรรค์เคียงกันนิรันดร์"
*****อามีนยาร็อบบิลอาลามีน*****



By รอชิดีน อัล-เกาซัร


มุสลิม เล่นน้ำสงกรานต์ได้หรือไม่ ?



มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิของอัลลอฮฺ  แต่เพียงพระองค์เดียว

          อิสลาม คือ ศาสนาที่มาจากพระผู้เป็นเจ้า คือ อัลลอฮฺ ซุบหานาฮูวาตาอาลา และเป็นศาสนาที่ปลูกฝังความเชื่อแก่บรรดามุสลิม  ให้ยอมรับการมีอยู่ของพระเจ้าองค์เดียว เมื่อมุสลิมมีหลักความเชื่อนั้น  เขาก็พร้อมที่จะน้อมรับบทบัญญัติต่างๆ ที่มาจากอัลลอฮฺ  
          หลักการของอิสลามนั้นมีทั้งที่เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับหลักความเชื่อ  การคบค้าสมาคมกับผู้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคม   การปฏิสัมพันธ์กับบุคคลต่างศาสนา และต่างความเชื่อ  แต่ขณะเดียวกันอิสลามให้ความสำคัญ กับสิ่งที่จะมาทำลาย หรือสิ่งที่ค้านกับหลักความเชื่อของอิสลาม   เมื่อใดก็ตามที่มุสลิมกระทำสิ่งที่ค้านกับความเชื่อและหลักการของอิสลาม  จะไม่สามารถกระทำได้  เช่นการไปมีส่วนร่วมในพิธีกรรมต่างๆ ของศาสนาอื่น ซึ่งพิธีกรรมของศาสนานั้น ค้านกับคำสอนของอิสลาม  หรือประเพณี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลักความเชื่อทางศาสนา  
          ดังนั้นความแตกต่างของศาสนาอิสลามที่มีจุดเด่นเฉพาะ  ไม่ใช่อุปสรรคในการดำเนินชีวิตร่วมกันกับผู้คนต่างวัฒนธรรม หรือต่างความเชื่อ   หลายคนที่ไม่ได้ศึกษาหลักคำสอนของอิสลามที่แท้จริง  หรือผู้ที่มีอคติต่ออิสลามนั้น มักจะเข้าใจอิสลามในภาพลบ  และมองว่าอิสลามคือตัวถ่วงความเจริญ หรือเป็นตัวสร้างปัญหา 
          ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากจะนำมาเสนอกับพี่น้องลูกหลานมุสลิมถึงการเล่นสงกรานต์สำหรับมุสลิมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง คือ มุสลิมจะไปร่วมสนุกสนานกับการเล่นสงกรานต์ได้หรือไม่  ถ้าเรามองโดยผิวเผินแล้ว  การเล่นน้ำสงกรานต์ไม่น่าจะเป็นสิ่งต้องห้าม  เพราะแค่เอาน้ำมารดหัวสาดใส่กัน  ในช่วงหน้าร้อนมันช่วยดับร้อนได้อีกต่างหาก   แต่เมื่อไปศึกษาความเป็นมาของพิธีสาดน้ำสงกรานต์ซึ่งเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับหลักความเชื่อของศาสนาอื่น  ตามหลักความเชื่อของศาสนาอื่นนั้นอิสลามไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้  หมายถึงมุสลิมไม่สามารถที่จะไปปฏิบัติในสิ่งที่เป็นหลักความเชื่ออื่นจากหลักความเชื่อของอิสลาม
          เมื่อเราไปศึกษาความเป็นมาของประเภณีสงกรานต์เราจะพบว่า  ความเป็นมาของนั้นเกี่ยวข้องกับหลักความเชื่อทางศาสนา (เข้าไปอ่านประวัติความเป็นมาของประเพณสงกรานต์ตามลิงค์ต่อไปนี้http://www.mahamodo.com/knowledge/water_festival.aspx) ซึ่งเป็นความเชื่อที่มาค้านกับความเชื่อของอัลอิสลาม
          เมื่อมุสลิมได้รับทราบความเป็นมาของประเพณีสงกรานต์มีที่มาอย่างไร  ก็สรุปได้ว่าที่มาของสงกรานต์เกิดจากหลักความเชื่อของศาสนาอื่น  จึงไม่อนุญาตให้มุสลิมเข้าไปมีส่วนร่วมในการเล่นน้ำสงกรานต์    เนื่องจากการเป็นมุสลิมจะต้องปฏิบัติตามหลักการที่เคร่งครัด   และต้องละทิ้งสิ่งที่เข้ามาเจือปนในศาสนา  มุสลิมต้องมีจุดยืนในศาสนาของตัวเองอย่างชัดเจน  การผสมผสานระหว่างความเชื่อของอิสลาม และความเชื่ออื่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจมารวมไว้ด้วยกันได้ 
อัลลอฮฺ ซุบหานาฮูวาตาอาลา ตรัสว่า
(لكم دينكم ولي دين )
“สำหรับพวกท่านก็คือศาสนาของพวกท่าน และสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน”
           นี่คือพระบัญชาของอัลลอฮฺ ที่ได้กำชับให้มุสลิมแสดงถึงจุดยืนที่ชัดเจนสำหรับการยึดถือปฏิบัติศาสนา   และให้ปลีกตัวจากการปฏิบัติตามหลักความเชื่อของศาสนาอื่น หรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในวันสำคัญของศาสนาต่าง ๆ หรือประเพณีทางศาสนาอื่น ไม่ว่าจะเป็นการลอยกระทง  สงกรานต์ หรือในทำนองดังกล่าว
قال النبي صلى الله عليه وسلم(( من تشبه بقوم فهو منهم  )) 
رواه أبوداود
ท่านนบีศอลลัลลอฮู อะลัยอิวะซัลลัมได้กล่าวว่า
“ใครที่เลียนแบบกลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใด ดังนั้นเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชนนั้น”
(บันทึกโดย อาบูดาวุด)

         เพราะถ้ามุสลิมได้เข้าไปมีส่วนร่วมในพิธีกรรมของพวกเขา มันเป็นการบ่งบอกถึงการนิยมชมชอบต่อพวกเขา  มุสลิมสามารถดำเนินชีวิตร่วมกับบุคคลต่างศาสนาได้โดยปกติ ในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนา   
          ดังนั้นหลักการอิสลามไม่ใช่หลักการที่จะมาสร้างความแตกแยกในหมู่ผู้คน อิสลามสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ โดยสันติสุข ความแตกต่างในศาสนาไม่ได้หมายความเราไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ในสังคม  อิสลามมีหลักการโดยเฉพาะแต่ขณะเดียวกันอิสลามเคารพในสิทธิของบุคคลอื่น  อิสลามไม่มีคำสอนให้ไปทำลายหรือ ด่าทอศาสนาหรือพระเจ้าของศาสนาอื่น  เพราะอิสลามเป็นศาสนาที่ปลูกฝังหลักความเชื่อที่มีต่อพระเจ้า และต้องปฏิบัติตามหลักการของศาสนาอย่างเคร่งครัด เพื่อเราจะรอดพ้นจากการลงโทษจากอัลลอฮฺ ซุบหานาฮูวาตาอาลา

         ดังนั้นสงกรานต์ในปีนี้หวังอย่างยิ่งว่าลูกหลานมุสลิมคงเก็บตัวอยู่กับบ้าน ไม่ไปมีส่วนร่วมในการเล่นน้ำสงกรานต์  ตามความเชื่อของศาสนาอื่นๆ

2553/12/31

ประโยชน์ของการถือศีลอด

ผลจากการถือศีลอด นำไปสู่คุณธรรมนานาประการ

1) แสดงให้ประจักษ์ชัดถึงความเสมอภาคทางสังคม

2) สามารถควบคุมจิตใจของตนเองได้

3) มีความซื่อสัตย์สุจริต

4) มีความอดทนอดกลั้น

5) มีคุณธรรม

6) มีจิตเมตตาสงสาร เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น

7) มีความสำนึกในความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า และซาบซึ้งต่อพระองค์ยิ่งนัก เพราะสภาพทรมานจากความหิว เมื่อได้เวลารับประทาน เขาก็จะตระหนักถึงคุณค่าของอาหารว่ามีมากมายเหลือเกิน และอาหารที่ได้รับประทานนั้น เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงประทานมาให้

8) มีระเบียบวินัย และฝึกให้ตรงต่อเวลา

 คุณธรรมทั้งหลายอันได้มาจากการถือศีลอดนั้น ที่สุดก็รวมอยู่ในความยำเกรงพระเจ้า ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมคุณธรรมทั้งปวง ดังนั้น อัลกุรอานจึงมีโองการไว้ในบทที่ 2 โองการที่ 183 ความว่า

               "เหล่าผู้ศรัทธาเอ๋ย การถือศีลอดได้บัญญัติแก่สูเจ้า ประดุจเดียวกับที่ได้บัญญัติไว้แก่ประชาชนก่อนสูเจ้า ทั้งนี้เพื่อสูเจ้าจักได้ยำเกรง"